นิพพาน 2 นัย หรือ 2 ความหมาย
เมื่อกล่าวโดยสรุป หลักฐานในพระไตรปิฎก แสดงให้เห็นว่า อนุปาทิเสสนิพพาน มีอยู่ 2 ลักษณะ คือลักษณะฝ่ายลบ (Negative) และลักษณะฝ่ายบวก (Positive)
พระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท เฉพาะอย่างยิ่งในยุคอรรถกถา (พ.ศ. 700-1000) เน้นแง่ลบของพระนิพพานเป็นพิเศษ อธิบายนิพพานในฐานะเป็นควาสว่างอย่างยิ่ง (นิพพานปรมสฺุ) ไม่ใช่อะไรทั้งสิ้น เป็นอนัตตา เป็นความสูญอย่างสมบูรณ์ ไม่มีอะไรเลย
แต่ก็มีชาวเถรวาทบางพวกอธิบายนิพพานในแง่บวก บอกว่า นิพพานมีอยู่จริง ในฐานะเป็นแดน (อายตนะ Sphere) อันหนึ่ง มีอยู่ในเอกภพนี้เอง แต่ชี้ไม่ได้ว่ามีอยู่ ณ จุดไหนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันตสาวกทั้งหลายสิ้นชีพดับขันธ์แล้ว บรรลุถึงนิพพานธาตุนั้น แต่ไม่ได้บอกว่า ยังอยู่ในฐานะเป็นบุคคล เป็นอัตตาหรือไม่ บอกแต่เพียงว่า เป็นธรรมชาติล้ำลึก (คมฺภีโร) หยั่งรู้ได้ยาก (ทุปฺปริโยคาฬฺโห) อันใคร ๆ นับประมาณไม่ได้ (อปฺปเมยฺโย)ดุจเม็ดทรายแห่งแม่คงคา (คงฺคาย วาลิกา) ดุจน้ำในมหาสมุทร เพราะเหตุที่หลักฐาน ในพระไตรปิฎกไม่ระบุไว้ชัดเจนนี้เอง ฝ่ายเถรวาทบางสำนัก จึงอธิบายให้ชัดเจนลงไปเลยว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีต และพระอรหันตสาวกทั้งหลาย ยังมีอยู่ในรูปของธรรมกาย ที่พุทธศาสนิกชนสามารถเข้าสัมผัสได้ ในสมาธิชั้นสูง
ถ้าเราดูหลักฐานในพระไตรปิฎก เราจะพบว่า มีการนำเสนอพระนิพพานในแง่บวกมากกว่าแง่ลบ แม้แต่ศัพท์ต่าง ๆ ที่เป็นไวพจน์ของนิพพาน ก็ล้วนแต่มีความหมายในทางบวกทั้งนั้น โปรดสังเกตศัพท์ที่เป็นไวพจน์ของนิพพานดังต่อไปนี้
อสงฺขตํ - ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง เป็นธาตุบริสุทธิ์
อมตํ เป็นอมตะ - ไม่รู้จักตาย (เพราะไม่มีการเกิด)
อนาสวํ - ไม่มีอาสวะทั้ง 3 คือ กามาสวะ ภวาสวะ และอวิชชาสวะ
อชฺชรํ ไม่รู้จักแก่ - ไม่มีความแก่ (เพราะไม่มีความเกิด)
อปโลกินํ - ไม่รู้จักทรุดโทรม ไม่มีอะไรทำลายได้
อนิทสฺสนํ - ไม่มีลักษณะที่เห็นได้ด้วยจักขุ วิญญาณ
นิปฺปปญฺจํ - ไม่มีกิเลสเครื่องทำให้เนิ่นช้า
อพฺภูตํ - ไม่กลับกลาย
อนีติกํ - ไม่มีความทุกข์
อนีติกธมฺมํ - เป็นธรรมอันหาทุกข์มิได้
อพฺยาปชฺฌํ - ไม่มีอันตราย ไม่มีการเบียดเบียน
อนาลยํ - ไม่มีอาลัย
ศัพท์เหล่านี้ แม้จะเป็นศัพท์ปฏิเสธ ก็มีความหมาย ในทางดี เช่น คำว่า "อมตํ" ไม่ตายก็หมายความว่า มีอยู่ตลอดกาล
ส่วนศัพท์ที่เป็นไวพจน์ของนิพพานต่อไปนี้ มีความหมายเป็นฝ่ายบวกโดยตรง เช่น
สจฺจ - เป็นความจริง
นิปุณํ - เป็นธรรมชาติละเอียด
สุทุทฺทสํ - เห็นได้ยากยิ่ง
ธุวํ - เป็นสภาพยั่งยืน
สนฺตํ - เป็นสภาพสงบ
ปณีตํ - เป็นสภาพประณีต
สิวํ - เป็นความสุข เยือกเย็น
เขมํ - เกษม ปลอดภัย
ตณฺหกฺขยํ - สิ้นความอยาก
อจฺฉริยํ - เป็นธรรมชาติน่าอัศจรรย์
วิราคํ - ปราศจากราคะ
สุทฺธิ - เป็นความบริสุทธิ์
มุตฺตํ - เป็นสภาพพ้น (จากทุกข์ทั้งปวง)
(มีผู้อ้างบาลีว่า เทฺว เม ภิกฺขเว ธมฺมา ธุวา สฺสตา นิจจา อมตา จกตา อสงฺขาตาฯ กตเม เทฺวฯ อากาโส จ นิพพานญฺจ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2 ประการนี้ เที่ยงแท้ มั่นคงยั่งยืน เป็นอมตะ ไม่มีผู้สร้าง ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง 2 ประการเป็นไฉน คือ อากาศ (อวกาศ) 1 นิพพาน 1)
มีบางศัพท์ที่ฟังดูมีความหมายในทางลบ แต่คำอธิบายที่ท่านให้ไว้ กลับเป็นบวก เช่น
นิพฺพานํ ความดับ ในที่มาแทบทุกแห่ง หมายถึง ความดับ โลภะ โทสะ โมหะ
สุญญํ ว่าง หมายถึง ว่างจากกามาสวะ ภวาสวะ และอวิชชาสวะ
*----------------------------------------------------------------------------------------------------------*
หนังสือ PD 004 คู่มือพุทธมามกะ
หนังสือเรียน หลักสูตร Pre-Degree